สำนึกรักบ้านเกิด...
สังคมในยุคปัจจุบันมีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปจากสังคมยุคก่อนๆสืบเนื่องมาจากปัจจัยและอิทธิพลของการขยายจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆทำให้ทรัพยากรต่างๆที่มีอยู่ลดน้อยลงไปและปัจจัยการเจริญทางนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี อุตสาหกรรมที่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ ทำให้สังคมเกิดการเสื่อมโทรมและเปลี่ยนแปลงมากขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งทางบวกและทางลบ จากสังคมเกษตรกรรมก็เปลี่ยนค่านิยมเดิมตามปัจจัยและอิทธิพลดังกล่าวข้างต้น
อ้างอิง : http://www.google.co.th/imglanding?g=รูปการจราจร
แต่เดิมจากวิถีชีวิตที่เรียบง่ายมีขนบธรรมเนียม ประเพณีที่สวยงามของคนในท้องถิ่นที่มีการสืบสานประเพณีต่อๆกันมา ก็เกิดการเปลี่ยนค่านิยมตามความเจริญของคนเมืองมากขึ้นทำให้คนในชนบทที่มีความเป็นอยู่เรียบง่ายพอมีพอกินหันมาเข้าสู่สังคมเมืองมากขึ้นตามกระแสนิยมทั้งทางด้านวัตถุและจิตใจ ทำให้เกิดผลกระทบที่ตามมามากมายคือ ทำให้เกิดปัญหาชุมชนแออัด ปัญหาการจราจรติดขัด ปัญหาเสื่อมโทรมทางมลพิษ ปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากร เป็นต้น ดิฉันคิดว่าคนเป็นครูและทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการปลูกฝังให้ศิษย์และเยาวชนของเราได้เห็นคุณค่าความเป็นไทย ปลูกฝังการมีจิตสาธารณะ ให้หันมารักบ้านเกิดเมืองนอนของตนเองอยู่อย่างพอเพียงโดยเฉพาะเด็กวัยรุ่นสมัยนี้ที่ทำตามกระแสนิยมนำวัฒนธรรมของชาวต่างชาติมาปฏิบัติกันมากขึ้นใช้วัตถุสิ่งของที่ฟุ่มเฟือยและไม่จำเป็นเท่าที่ควรเช่น การใช้โทรศัพท์มือถือ กระเป๋า รองเท้าฯลฯ (ทั้งที่หาเงินเองยังไม่ได้ ) และการใช้ภาษาไทยที่ผิดๆซึ่งคนเป็นครูควรตระหนักและเห็นคุณค่าของความเป็นไทยปลูกฝังให้ศิษย์เห็นแต่สิ่งที่ดีไม่ว่าจะเป็น การไหว้ที่สวยงาม การยิ้มทักทายด้วยความจริงใจและการใช้ภาษาที่ถูกต้องรวมทั้งเอกลักษณ์ต่างๆของคนไทยให้อยู่มั่นคงตลอดไป
ดังนั้นการปลูกจิตสำนึกรักบ้านเกิด ท้องถิ่นชุมชน ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกฝ่ายทุกคน ทุกองค์กร จะต้องหันมาให้ความร่วมมือกันเพื่อให้บุคคลในครอบครัว ชุมชน และสังคมตระหนัก ปลูกฝังความคิด ค่านิยมที่ถูกต้องดีงามตามขนบธรรมเนียม ประเพณีท้องถิ่นอันจะเป็นปัจจัยพื้นฐานในการช่วยลดปัญหาและการเกิดความเสื่อมโทรมของสังคมให้มีความเป็นสังคมที่ดีขึ้น
อ้างอิงจาก http://www.l3nr.org/posts/449455
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น