วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557


ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์

ความหมายของฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์

              ความหมายของฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์เป็นฐานข้อมูลในระดับภายนอก  และระดับแนวคิดแก่ผู้ใช้ข้อมูลได้เป็นอย่างดี  รีเลชั่ต่าง ๆ ในฐานข้อมูลจะประกอบด้วย  แอทริบิวต์ต่าง ๆ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อลดความซ้ำซ้อนของการเก็บข้อมูล  และสามารถเรียกใช้ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อดีของฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
                 มีดังนี้
      1. ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์เป็นกลุ่มข้อมูลของรีเลชั่นหรือตารางที่ข้อมูลถูกจัดเก็บเป็นแถวหรือคอลัมน์  ซึ่ง
          ทำให้ผู้ใช้เห็นภาพของข้อมูลได้ง่าย
      2. ผู้ใช้ไม่ต้องรู้ว่าข้อมูลถูกจัดเก็บอย่างไร  รวมถึงวิธีการเรียกใช้ข้อมูล
      3. ภาษาที่ใช้เป็นการเรียกใช้ข้อมูล  เป็นลักษณะคล้ายภาษาอังกฤษ  และไม่จำเป็นต้องเขียนเป็นลำดับขั้น
      4. การเรียกใช้หรือเชื่อมโยงข้อมูลทำได้ง่าย  โดยใช้โอเปอร์เรเตอร์ทางคณิตศาสตร์
คุณลักษณะในการจัดเก็บข้อมูล
            ภาษาที่ใช้ในการควบคุมข้อมูล  ประกอบด้วยคำสั่งที่ใช้ในการควบคุมความถูกต้องของข้อมูล  หรือป้องกันการเกิดเหตุการณ์ที่ผู้ใช้หลายคสเรียกใช้ข้อมูลพร้อมกัน  ในขณะที่ข้อมูลนั้น ๆ กำลังปรับปรุงแก้ไขอยู่   ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับผู้ใช้อีกคนหนึ่งก็เรียกใช้ข้อมูลนี้  และได้ค่าที่ไม่ถูกต้อง  เพราะผู้ใช้คนแรกยังปรับปรุงแก้ไขไม่เสร็จ
กฎที่เกี่ยวข้องในฐานข้อมูล
    กฎความบูรณภาพของเอนทิตี้
              กฎนี้ระบุว่า  แอทริบิวต์ใดที่จะเป็นคีย์หลักในแอทริบิวต์นั้นจะเป็นค่าเอกลักษณ์ ( Unique )  และเป็นค่าว่าง  (  Null  )  ความหมายของการเป็นค่าว่างไม่ได้  (  Not  full )  ในที่นี้จะหมายรวมถึงข้อมูลของแต่ละ
    แอทริบิวต์ที่เป็นค่าหลักจะเป็นค่าว่างไม่ได้  และเป็นค่าเอกลักษณ์ในการที่จะระบุค่าของแอทริบิวต์อื่น ๆ   ใน
    ทูเพิลอื่น ๆ ได้
    กฎความบูรณภาพของการอ้างอิง
            การอ้างอิองข้อมูลระหว่างรีเลชั่นในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์จะใช้คีย์นอก  ของรีเลชั่นหนึ่งไปตรวจสอบกับค่าของแอทริบิวต์ที่เป็นคีย์หลัก  ของรีเลชั่นหนึ่ง  เพื่อเรียกดูข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง  กล่าวอีกนัยหนึ่ง  คือ  ค่าของคีย์นอกจะต้องสามารถอ้างอิงให้ตรงกันกับค่าขอแงคีย์หลักได้  จึงจะเชื่อมโยงหรืออ้างอิงข้อมูลข้อมูลระหว่างรีเลชั่นได้
            ในกรณีที่มีการแก้ไขหรือลบข้อมูล  จะทำได้หรือไม่นั้น  ขึ้นอยู่กับการออกแบบฐานข้อมูล  มี  4  ทางเลือก  คือ
      1. การลบหรือแก้ไขข้อมูลแบบมีข้อจำกัด  (  Restrict  )
                การลบหรือการแก้ไขข้อมูลจะกระทำได้เมื่อข้อมูลของคีย์หลักในรีเลชั่นหนึ่งไม่มีข้อมูลที่จะอ้างอิงโดยคีย์นอกำจากรีเลชั่นหนึ่ง  เช่น  รหัสแผนก  DEPNO  ในรีเลชั่น  DEP  จะถูกแก้ไขหรือลบทิ้งก็ต่อเมื่อไม่มีพนักงานคนใดสังกัดอยู่
      2. การลบหรือแก้ไขข้อมูลแบบต่อเรียง  (  Cascade )
               การลบหรือการแก้ไขข้อมูลจะทำแบบลูกโซ่  คือ  หากมีการแก้ไขหรือลบข้อมูลของคีย์หลักในรีเลชั่นหนึ่ง  ระบบจะทำการลบหรือการแก้ไขข้อมูลของคีย์นอกในรีเลชั่นหนึ่ง  ที่อ้างอิงถึงข้อมูลของคีย์หลักที่ถูกลบให้ได้
      3. การลบหรือแก้ไขข้อมูลโดยเปลี่ยนเป็นค่าว่าง (  Nullify  )
การลบหรือการแก้ไขข้อมูลจะทำได้เมื่อมีการเปลี่ยนค่าของคีย์นอกที่ถูกอ้างอิงให้เป็นค่าว่างเสียก่อน
      4. แก้ไขข้อมูล โดยกำหนดค่าปริยาย  (  Default  )
             การแก้ไขข้อมูลของคีย์หลักสามารถทำได้  โดยถ้าหากมีคีย์นอกที่อ้างอิงถึงคีย์หลักที่ถูกแก้ไข  จะทำการปรับค่าของคีย์นอกนั้นเป็นค่าโดยนอกนั้นเป็นค่าโดยปริยาย  ที่ถูกกำหนดขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น